• Uncategorized

โยคะ เปลี่ยนชีวิต “จิต และกาย” สมดุล ด้วยโยคะ

4-10 พ.ค. 2561 นี้ ครูนกมาทำงานที่เมืองอุบุด บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย งานทั่วไปก็เป็นนการสอนกลุ่มส่วนตัว สอนเพื่อนๆ ชาวบาหลีเป็นครูสำหรับเทคนิคการสอนที่ดี  ทำงานบ้าง พักบ้าง เที่ยวบ้าง ในทริปนี้

บังเอิญว่า วันนี้ มีเวลาพัก ก็เลยได้นั่งคิดทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ประกอบกับเช้าๆ ที่นี่อากาศดี ได้ฤกษ์เริ่มเขียนสิ่งที่อยากเขียน สิ่งที่อยากจะแบ่งปันก็มีหลายเรื่องเลยค่ะ วันนี้เครูนกอยากขียนเรื่องนี้ก่อนและอยากให้เป็นกำลังใจกับหลายๆ คน ที่รู็สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข ทำไม เกิดมาแล้ว ต้องป่วย ป่วยกาย ป่วยใจ เจ็บนั่นนี่ บางทีไม่ได้ทำอะไรเลยก็เจ็บ ตั้งคำถามให้ตัวเอง และเอามาคิดเยอะ ทุกข์ แล้วก็ป่วยอีก

4 ปีก่อน ครูนกมีนักเรียนท่านหนึ่ง มาหาครูนก และมาทำโยคะบำบัดกับครูนก ขออนุญาตเอ่ยนามนะคะ นักเรียนชื่อคุณวิทยาค่ะ (ท่านอนุญาตแล้ว : ) )

ตอนที่เราเจอกัน คุณวิทยามาพบครูนก แบบใบหน้าหมองคล้ำ แบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ  ใบหน้าดูวิตกกังวล ไม่มีความสุข มีอาการท้องโตเนื่องจากมีแก๊สและลมในท้องเยอะ ร่างการขยับไม่สะดวก ทานอะไรก็ต้องระวัง มีอาการลำไส้แปรปรวน และมีอาการตระหนก (Panic) คิดมาก มีตะคริวง่ายมาก ที่ท้อง มีโรคอ้วน

 

                                                       สองภาพนี้ เป็นภาพช่วงแรกที่คุณวิทยา มาฝึกโยคะ กับครูนก ที่บ้าน ครูนก ตอนนั้นครูนกยังไม่ได้ทำสตูดิโอ ที่สาขานิมมานเลยค่ะ สี่ปีที่แล้ว 

 

เราได้นั่งคุยกัน พบว่า กว่า 10 ปีที่ผ่านมา คุณวิทยา มีอาชีพการทำงานที่ต้องนั่งนานๆ นอนดึกพักผ่อนน้อย มีการไปสังสรรค์นอกบ้าน นอนไม่เป็นเวลา ดื่มเครื่องดื่มที่เป็นโทษต่อร่างกาย แอลกอฮอล์ ไม่สนใจสุขภาพ อาหารที่ทาน ไม่ได้ใส่ใจว่ามีประโยชน์หรือไม่ จนอ้วนขึ้นมาจากน้ำหนัก 63 กิโลกรัมขึ้นมาเป็น 95 กิโลกรัมและต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเส้นเลือดสูงด้วยอายุเพียง 28 ปีหลังจากนั้นก็เริ่มมีความเครียดเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง ไม่มีความมั่นใจกลัวเป็นโรคที่อันตรายจึงขวนขวายวิธีการลดน้ำหนักด้วยวิธีต่างๆทั้งถูกหลักและไม่ถูกหลักทางการแพทย์

อยู่มาวันหนึ่งร่างกายเกิดอาการท้องอืดแน่น มีลมในท้อง อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อนรุนแรง ท้องเป็นตะคริวง่าย หายใจไม่สะดวก และก็มีอาการตระหนก (Panic Attacks) คือกลัว ขับรถไม่ได้ นั่งเครื่องบินไม่ได้ มึนศรีษะแน่นหน้าอกและอาการต่างๆที่เรียกว่าร่างกายเสียสมดุล แบบไม่ทราบสาเหตุ

 

ช่วงแรก ไปหาหมอหลายท่าน วนไปมา ไม่ดีขึ้น ท้ายที่สุด ได้พบอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่ง ได้วิเคราะห์ว่า สาเหตุของอาการแปรปรวนที่ท้อง ท้องอืด กรดไหลย้อนแบบรุนแรงและ Panic เกิดจากการใช้ชีวิต ที่ไม่ถูกต้อง (Life style) อาหาร การพักผ่อน ที่ไม่ถูกต้อง สาเหตุต่างๆ ทางกาย ส่งผลไปถึงอาการทางใจ(จิตใจ) หรืออาการตื่นตระหนก (Panic attacks) ที่คุณวิทยารู้สึกและได้รับมาอย่างไม่รู้ตัว คุณวิทยาต้องหาหมอ 3-4 ท่านในช่วงนั้น รวมถึงจิตแพทย์ เพื่อรักษาอาการตื่นตระหนก (Panic) และที่สำคัญ คุณหมอแนะนำให้ทำโยคะ บำบัด!

 

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โยคะ บำบัด นี้ไม่ใช้การฝึกโยคะ แล้วโรคจะหาย การทำโยคะ บำบัด เป็นการฝึกโยคะ โดยใช้หลักเกณฑ์ทางธรรมชาติ การหายใจ สมาธิ เพื่อปรับสมดุลร่างกาย และจิตใจ ให้ดีขึ้น และจากนั้นจะส่งผลให้อาการต่างๆ ที่เราเป็นอยู่ดีขึ้น และจะดีกว่าหากทำควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์ หากว่าเราเป็นโรคที่ต้องใช้ยารักษาด้วย  และการทำโยคะ บำบัด ควรปรึกษาครูโยคะ ที่ผ่านการศึกษาเรื่องโยคะ บำบัดและมีความรู้ด้านกายวิภาคที่ดี เท่านั้น เรื่องจากการใช้โยคะ มาเป็นเครื่องมือในการดูแล ส่งผลได้ทั้งประโยชน์และโทษ การฝึกโยคะ หรือหายใจผิดวิธี ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน

 

กลับมาที่เรื่องคุณวิทยา คุณวิทยาบอกครูนกว่า ก่อนมาหาครูนก ก็ได้รักษาทางการแพทย์ และทำโยคะ มาระยะหนึ่ง แต่กลับพบว่า อาการตนเองไม่ดีขึ้น ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด จึงได้ลองหาทางเลือกใหม่ โดยลองหาข้อมูลโยคะ บำบัด และเข้ามาหาครูนก

 

หลังได้พูดคุยกัน ครูนกพบว่า วิธีการรักษาทางการแพทย์ ของคุณวิทยา มีการปรับใช้ตามอาการที่เกิดขึ้นแล้ว และยาที่ยังคงทาน จะเป็นยารักษาอาการท้อง และอาการตื่นตระหนก ที่ขาดไม่ได้ ส่วนการฝึกโยคะ ที่ผ่านมาเป็นในเชิงโยคะ เชิงร้อน การหายใจเชิงร้อน ทำให้ร่างกายภายในที่ร้อนอยู่แล้วและมีแก๊สเยอะ ทำให้เป็นมากขึ้น ดังนั้น การใช้โยคะแบบเดิม จึงทำให้อาการไม่ดีขึ้น ครูนกจึงปรับวิธีการฝึกโยคะ ให้คุณวิทยาใหม่ โดยเน้นการฝึกหายใจเชิงเย็น และลดแก๊ส ในท้อง โยคะแบบเบา และนุ่มนวล

                                                

 

ภาพช่วงหลัง ที่ฝึกโยคะ กับครูนก มาระยะหนึ่งแล้วค่ะ ที่สตูดิโอ หน้าตาสดใสขึ้น ขยับได้ดีขึ้น ภาพที่สาขานิมมาน ยิ้มได้แล้ว

 

อีกเรื่องที่ดีมากๆ คือคุณวิทยา จะมีสมุดบันทึก 1 เล่ม จดอาการตนเองทุกวัน ประเมินอาการตนเองเป็น % ซึ่งจะเห็นการพัฒนาของอาการป่วยของเอง การรับประทาน กิจกรรมที่ทำ ซึ่งส่งผลดีอย่างมากต่อการรักษาและบำบัดอาการ

 

คุณวิทยา ได้มาฝึกโยคะ กับครูนก ประมาณสัปดาห์ละสองครั้งกว่าสองปี ต่อเนื่อง ช่วงแรกเราฝึกโยคะ ติดเรื่องของการเคลื่อนไหว การเดิน การก้ม เพราะมีแก๊สในท้องเยอะ เราค่อยๆ ฝึกกันไป ปรับการฝึกกันไปทีละน้อย บางวันอาการก็ไม่ดี บางวันอาการก็ดี ฝึกได้บ้างไม่ได้บ้าง ทุกครั้งเรามีการพูดคุย ฝึกหายใจ ฝึกโยคะ ให้เหมาะกับอาการและร่างกาย ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์ และครูนกสอนให้คุณวิทยา ไปฝึกเองที่บ้านด้วย ด้วยความมีวินัยของคุณวิทยา ทำให้อาการค่อยๆ ดีขึ้นเป็นลำดับ

 

อย่างที่บอกไว้เบื้องต้นนะคะ กว่าอาการจะสะสมมาเป็นโทษต่อร่างกาย สะสมมา 10-20 ปี ดังนั้น การบำบัดดูแล ต้องใช้เวลาเช่นกัน จากที่ครูนกสังเกต และคุยกับคุณวิทยา คุณวิทยา มีกำลังใจที่ดี ยอมรับอาการที่ตนเป็น นำธรรมะ นำทาง ฟังธรรม นอนเป็นเวลา รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และรักษา ฝึกโยคะอย่างมีวินัย ดังนั้น ภายใน 2 ปี อาการที่คุณวิทยาประเมินเอง อาการป่วย 100% ทางกายและใจ ลดลงเหลือ 40% ยาที่รับประทาน ลดลง และมีสุขภาพดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น คุณวิทยา ยอมรับและเข้าใจตนเองว่า ยังคงต้องใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่ตนเป็น และค่อยๆ บำบัดรักษาไป แล้วร่างกาย จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง

 

ปัจจุบัน คุณวิทยา ยังคงดูแลตนเอง ด้วยการดูแลอาหาร การฝึกโยคะ สม่ำเสมอ เพราะหากไม่ฝึกโยคะแล้ว จะรู้สึกไม่สบายทันที และด้วยความคิดเชิงบวกและอยากแบ่งปัน เป็นกำลังใจให้กับพวกเราหลายๆ คน คุณวิทยา จึงอนุญาตให้ครูนกนำเรื่องราวตนเองมาเล่าสู่กันฟังค่ะ เป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจให้ คนที่เจ็บป่วยทั้งกาย และใจ ได้มองตนเองและปรับความคิด ให้แข้มแข็ง ว่าทุกอย่าง สามารถแก้ได้ โยคะ สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตตนเองได้ ขอเป็นกำลังใจให้กันนะคะ

 

ส่วนตัวครูนกก็เช่นกัน ไม่สบายมาตลอดเลยค่ะ เดี๋ยวค่อยนำมาแชร์ให้ฟัง กระดาษสิบหน้าก็คงอธิบายไม่หมด แต่สิ่งหนึ่งที่จะบอกได้เลยค่ะ ว่า ปัจจุบัน ครูนกแข็งแรงสุดๆ ไม่ต้องทานยา โยคะ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วค่ะ

 

รักและปรารถนาดีต่อทุกคนค่ะ

มีคำถามหรืออยากคุยกับครูนก เขียนมาที่เพจ หรือแอดไลน์ 0818840122 ได้เลยค่ะ

ครูนก

 

You may also like...